นอกจากไฟโบรอินธรรมชาติผ้าไหมนอกจากนี้ยังมีส่วนประกอบอื่นๆ เช่น เซริซิน เป็นต้น และในกระบวนการผลิต ยังมีกระบวนการทำให้หมาดๆ ไหม ซึ่งจะมีการเติมน้ำมันปั่น เช่น น้ำมันสีขาวอิมัลซิไฟเออร์ น้ำมันมิเนอรัล และพาราฟินอิมัลซิไฟเออร์ เป็นต้นดังนั้นผ้าไหมธรรมชาติจึงควรผ่านกระบวนการขัดเพื่อขจัดสิ่งสกปรกตามธรรมชาติและเทียมเหล่านี้ และทำให้ผ้าไหมมีคุณสมบัติที่อ่อนนุ่มและสดใสในขณะเดียวกันก็ช่วยให้กระบวนการย้อมสีและการพิมพ์ครั้งต่อไปสะดวกขึ้น
กระบวนการกำจัดสิ่งสกปรกบนผ้าไหมธรรมชาติคือการกำจัดสารเซริซินเป็นหลักแม้ว่าเซริซินและไฟโบรอินจะเป็นโปรตีนทั้งคู่ แต่องค์ประกอบของกรดอะมิโน การจัดเรียงตัว และโครงสร้างซุปเปอร์โมเลกุลต่างกันมากเนื้อหาของกรดอะมิโนโพลาร์ในโปรตีนเซริซินนั้นสูงกว่าโปรตีนไฟโบรอินมากและการจัดเรียงของโมเลกุลนั้นมีความเป็นระเบียบน้อยกว่าไฟโบรอินมากความเป็นผลึกของโปรตีนเซริซินต่ำและแทบไม่มีทิศทางดังนั้นน้ำ สารเคมี และเอนไซม์สลายโปรตีนจึงมีผลกับเซริซินและไฟโบรอินต่างกันเซริซินมีความคงตัวน้อยกว่าต่อปัจจัยทางเคมี กายภาพ และชีวภาพดังนั้นเราจึงสามารถใช้คุณสมบัติเหล่านี้เพื่อกำจัดเซริซินโดยไม่ทำลายไฟโบรอินโดยใช้วิธีการและสภาวะทางเทคโนโลยีที่เหมาะสม
เทคโนโลยีการขจัดสิ่งสกปรกบนผ้าไหมธรรมชาติสามารถแบ่งออกเป็นการขจัดสิ่งสกปรกด้วยกรด การขจัดสิ่งสกปรกจากด่าง การขจัดสิ่งสกปรกด้วยเอนไซม์ และสารลดแรงตึงผิว เป็นต้น ปัจจุบันเทคโนโลยีการขจัดสิ่งสกปรกจากด่างถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในการผลิตเพื่อปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์กำจัดสิ่งสกปรกบน สารกำจัดสิ่งสกปรกบนที่มีประสิทธิภาพสูงทุกชนิดได้รับการพัฒนาและนำไปใช้อย่างต่อเนื่องส่วนใหญ่เป็นสารประกอบของสารลดแรงตึงผิวสารคีเลตและสารอัลคาไลน์ เป็นต้น ยกเว้นสารกำจัดสิ่งสกปรกที่มีประสิทธิภาพสูง โรงงานย้อมไหมมักใช้สารลดแรงตึงผิว เช่น ลามีปอน เอ และสารกระจายตัวWA เป็นต้น และเติมสารคีเลตและสารช่วยกระจายตัว โซเดียมซิลิเกต และโซเดียมคาร์บอเนต เป็นต้น เป็นสารขจัดสิ่งสกปรกบนผ้าไหมธรรมชาติ
นอกจากนี้ยังสามารถใช้เอ็นไซม์ในการขัดผ้าไหมธรรมชาติได้อีกด้วย
เวลาโพสต์: ก.ค.-04-2022